วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2563

การเสี่ยงทายและโชคลาง



การเสี่ยงทายและโชคลาง

         ไก่แก้วนั้นเป็นตัวละครที่ชักนำพระลอให้ไปพบเจ้าหญิง คำถามคือ เพราะเหตุใดพระลอจึงตามไก่แก้วตัวนั้นไป หากจะกล่าวว่าเพราะความงามก็คงจะไม่ผิด เห็นได้จากบทพรรณนาในเนื้อเรื่องที่กวีได้พรรณนาภาพของไก่แก้วไว้อย่างสวยงามมาก ลักษณะการตามไก่แก้วดังกล่าวคล้ายคลึงกับฉากพระรามตามกวาง หรืออุณรุทตามกวาง แต่มีข้อสังเกตว่าพระลอที่กำลังมุ่งมั่นตามหาสองเจ้าหญิง อยู่ดี ๆ กลับเดินตามไก่แก้วไปเพราะความงามอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายก็ดูเป็นเรื่องแปลก โดยอาจเพราะไก่แก้วตัวนี้เป็นเครื่องเสี่ยงทายชีวิตของพระลอ พระลอจึงต้องการที่จะจับไก่ตัวนั้นเพื่อทำนายชะตาชีวิตของพระองค์ หลังจากที่ทรงเสี่ยงชะตาชีวิตว่าจะรอดกลับมาไหมจากการเสี่ยงทายกระแสน้ำว่า หากรอดกลับมาขอให้สายน้ำไหลตามปกติ แต่ถ้ามีอันตรายขอให้กระแสน้ำไหลทวนกลับ ซึ่งผลก็คือกระแสน้ำไหลทวนกลับและน้ำก็กลายเป็นสีเลือด จึงเป็นที่สันนิษฐานว่าพระองค์ต้องการจับไก่แก้วตัวนั้นเพื่อมาเสี่ยงดวงชะตาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตามความเชื่อของคนไทยในภาคเหนือได้มีการทำนายโชคชะตามนุษย์ด้วยการพิจารณากระดูกไก่ และมีการพิจารณาคางไก่ในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งก็ตรงกับที่มาของเรื่องลิลิตพระลอที่เป็นวรรณคดีไทยจากท้องถิ่นเหนือนั่นเอง
  
พระลอตามไก่
"ท้าว ธ ผาดเห็นไก่ตระการ ภูบาลบานหฤทัยงามพอใจพอตา
มิทันทาธารธำรง มิทันทาธารธำรง
ทรงมงกุฏ ทรงมงกุฏภูษาสรรพ
จับพิชัยอาวุธราชพล บัดดล ธ รุกไล่
หวังได้ไก่ตัวงาม
พี่เลี้ยงตามจอมราช พี่เลี้ยงตามจอมราช
ครั้นคลาด ครั้นคลาดไก่หยุดท่า
เห็น ธ ช้าไก่ขันเรียก ไก่กะเหวียกตาดู
ครั้นภูธระจะทัน
ไก่ค่อยผันค่อยผาย ไก่ค่อยผันค่อยผาย
ระร่าย ระร่ายส่ายตีนเดิน ดำเนินหงส์ยกย่าง
ครั้นเห็นห่างไก่หยุด
ครั้นจะสุดแดนป่า
ครั้นจะผ่าแดนบ้าน ครั้นจะผ่าแดนบ้าน
ไก่แกล้งคร้าน ไก่แกล้งคร้านมารยา
เห็นไก่ช้า ธ ก็สาว ทางยืดยาวย่นสั้น
เหย่าไหย่ไหย่ใกล้กระชั้น เหย่าไหย่ไหย่ใกล้กระชั้น
ไก่แกล้ง ไก่แกล้งกระเจิงโผ
ไก่แกล้ง ไก่แกล้ง กระเจิงโผ




ไก่เอยไก่แก้ว กล้าแกล้วกายสิทธิ์ฤทธิ์ผีสิง


เลี้ยวล่อลอราชฉลาดจริง เพราพริ้งหงอนสร้อยสวยสะอาง


ทำทีแล่นถลาให้คว้าเหมาะ ย่างเหยาะกรีดปีกไซร้หาง


ครั้นพระลอไล่กระชั้นกั้นกาง ไก่ขวัญหันห่างราชา


ฉับเฉียวเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน วนเวียนหลบเวิ้งเซิงพฤกษา


ขันเจื้อยเฉื่อยก้องห้องวนา


ทำท่าเยาะเย้ยภูมี"

พระลอเสี่ยงน้ำ
                    
         เมื่อข้ามแม่กาหลงแล้วลงสรง พระลอบังเกิดจิตคิดถึงพระมารดาขึ้นมาอย่าง ประหลาด "บาปสิ่งใดจำให้ ลูกร้อนใจถึง" อีกทั้งละล้าละลังหวั่นไหว จะไปต่อหรือคืนหลังดี ตัดสินใจอธิษฐานเสี่ยงน้ำดูว่า หากไปต่อจะเป็นเช่นไร นับเป็นตอนที่สะเทือนใจอย่างยิ่งในลิลิตเรื่อง "พระลอ" นี้ ระหว่างทางไปเมืองสรอง ขณะที่สรงน้ำอยู่ ณ แม่น้ำกาหลง พระลอมีพระทัยโศกเศร้าคิดถึงพระชนนี นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ถนอมเลี้ยงดูมา จึงตั้งสัตย์อธิษฐานกับแม่น้ำกาหลง หากพระองค์ไม่ได้รอดกลับไปแมนสรวงขอให้น้ำจงไหลวน แต่หากได้รอดกลับคืนขอให้น้ำจงไหลไป

    
โคลงสี่
มากูจะเสี่ยงน้ำ นองไป ปรี่นา
น้ำชื่อกาหลงไหล เชี่ยวแท้
ผิวกูจะคลาไคล บรอด คืนนา (ผิว = ผิว่า หากว่า)
น้ำจุ่งเวียนวนแม้ รอดไส้จงไหล ฯ (จุ่ง = จง)
ครั้นวางพระโอษฐ์น้ำ เวียนวน อยู่นา
เห็นแก่ตาแดงกล เลือดย้อม
หฤทัยรทดทน ทุกข์ใหญ่ หลวงนา (รทด = รันทด)
ถนัดดั่งไม้ร้อยอ้อม เท่าท้าวทับทรวง ฯ
บให้คนรู้เรื่อง ฝืนใจ อยู่นา (บให้ = บ่ให้, ไม่ให้)
ขึ้นจากสรงเสด็จใน อาสน์ไท้
ยังสุวรรรณพระพลาไชย ใดดั่ง นี้นา
ปิดม่านละห้อยไห้ ออกท้าวบุญเหลือ ลูกเอย ฯ
ระตายจงลูกได้ เห็นผี ท่านนา
ผีลูกตายกษัตรีย์ แม่ได้
เผาศพลูกอย่ามี อุจาด ราแม่
ฤาบร้างเผาผีไท้ บร้างได้เผาผี ลูกเลย ฯ (บร้าง = บ่ร้าง, อย่าไกล)


โคลงสอง

ลูกตายก็ตายแล้ว เจ็บบเห็นหน้าแก้วเกิดเกล้ากูมา ฯน้ำตาไหลหลั่งไห้ เป็นเลือดตกอกไหม้ออกท้าวฤาเห็น ลูกเลย 
ลางเข็ญเห็นแหล่งน้ำ อกลูกเพี้ยงผกขว้ำออกท้าวใจบุญ ลูกเอย ฯเป็นขุนยศยิ่งฟ้า ฤาบาปจำหว้ายหล้าหล่มหล้มตนเดียว ฯ จะเหลียวเหลียวบได้ เหยียบแผ่นดินผิดไส้ (ไส้ = ไซร้)อยู่เต็มบาทา พระเอย ฯ



โคลงสี่
เคยเป็นจอมโลกเจ้า ไอยศวรรย์
ร้อยเอ็ดเมืองราชคัล คั่งเฝ้า
มาตกถึงกลางอรร- ณพแต่ เดียวนา
เยียวบ่เห็นหน้าเจ้า ลูกแล้บเห็น ลูกเลย ฯ (เยียว = เดี๋ยว)

                
                 ครั้นจบคำอธิษฐาน แม่น้ำกาหลงไหลวนเป็นสีเลือด พระทัยเป็นทุกข์ใหญ่หลวงดั่งถูกไม้ใหญ่ทับทรวง 

ทรงปิดความไว้ไม่ให้ใครรู้เรื่อง กลับเข้าในพลับพลาปิดม่านร่ำไห้ แม้สิ้นพระชนม์ขอให้พระชนนีได้ถวายพระเพลิง 

ทรงดำริว่าเป็นถึงกษัตริย์มีเมืองต่าง ๆ มาห้อมล้อมเข้าเฝ้า บัดนี้มาอยู่กลางป่าเขาอย่างเดียวดาย พระชนนีจักมิได้เห็น

พระพักตร์แล้ว พระลอเป็นทุกข์อย่างมากแต่ก็แสร้งทำหน้าชื่น เปิดม่านเรียกพี่เลี้ยงให้เล็ดลอดไปดูต้นทางอย่าง

ระแวดระวัง พี่เลี้ยงรับสารแล้วรีบไป เอาสินจ้างให้ชาวบ้านผูกมิตรไว้ เพื่อเข้าไปดูทางในอุทยานเห็นถนัดทั้งประตูวัง

แลตำหนักพระเพื่อนพระแพง กลับออกมามิให้ใครเห็น เข้าเฝ้าเขียนแผนที่ถวายพระลอโดยละเอียด


ร่าย

ข้าก็เข้าไปดูอุทยาน หมู่พยาบาลสวนไท้ (ไท้ = กษัตริย์)
ให้สินจ้างชักชิด เงินทองปิดปากไว้
ช้ใดได้ทุกประการ ข้าก็เข้าไปดูทวารเวียงวัง
ดูทั้งเรือนสองกษัตริย์ ที่ขัดข้าเห็นถ่อง
ที่คล่องข้าเห็นถี่ ทุกที่ข้าเห็นถ้วน
ม้วนทั้งมวลข้าใส่ใจ ห่อนให้ใครเห็นได้ (ห่อนให้ = ไม่ให้)
ซ่อนเงื่อนงำแง่ไว้ เกียจกั้นเป็นกล ฯ



พระลอคิดดูแล้วให้คนเจ็ดสิบรออยู่ข้างนอก อีกสามสิบให้ตามเสด็จ



ที่มา : https://swhappinessss.blogspot.com/2012/06/blog-post.html







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความเชื่อเรื่องความฝัน

ความเชื่อเรื่องความฝัน                  ความเชื่อเรื่องความฝันในเรื่องลิลิตพระลอ จะเห็นว่าก่อนที่ตัวละครเอกจะพบกัน ต่างก็ฝันและตีความ...